top of page
Water Samples

RESOURCES

งานวิจัยระดับนานาชาติรองรับโซเดียมไฮโปคลอไรต์

และกรดไฮโปคลอรัสในการฆ่าเชื้อแบบอเนกประสงค์

ฆ่าเชื้อ Covid-19

การทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโรคบนพื้นผิวทั่วไปในบริบทของโรคโควิด 19 (องค์การอนามัยโลก, 2020)

องค์การอนามัยโลก แนะนำให้ใช้โซเดียมไฮโปคลอไรต์เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อ COVID-19 สำหรับพื้นผิวธรรมดาที่ความเข้มข้น 0.1% (1,000 ppm) ส่วนพื้นผิวที่ปนเปื้อนสิ่งสกปรก เช่น เลือด เสมหะ จะใช้ที่ความเข้มข้น 0.5% (5,000 ppm)

บทความเผยแพร่ความรู้สู่ประชาชนน้ำยาฆ่าเชื้อกับโควิด-19 (คณะเภสัชศาสตร์มหาวิทยาลัยมหิดล, 2020)

บทความจากคณะเภสัชศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล อ้างถึงคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกในการใช้โซเดียมไฮโปคลอไรต์มาเจือจางเพื่อฆ่าเชื้อ COVID-19 บนพื้นผิวต่าง ๆ

การใช้ไฮโปคลอไรต์เป็นยาฆ่าเชื้อในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในอินเดีย: มุมมองด้านสุขภาพของมนุษย์และเคมีในชั้นบรรยากาศ (กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการครอบครัว, 2020)

กระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการครอบครัว ประเทศอินเดีย แนะนำการฆ่าเชื้อด้วยโซเดียมไฮโปคลอไรต์ที่ความเข้มข้น 5-10% ในสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ในอินเดีย

รายการน้ำยาฆ่าเชื้อโควิด-19 (สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ประเทศสหรัฐอเมริกา)

รายการน้ำยาฆ่าเชื้อที่สำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม ประเทศสหรัฐอเมริกา แนะนำการฆ่าเชื้อด้วยโซเดียมไฮโปคลอไรต์บนพื้นผิว ที่ความเข้มข้น 6% เป็นระยะเวลา 5 นาที

สถานการณ์การระบาดของโควิด-19 และการปกป้องสุขภาพของแรงงานจากสารเคมีที่ใช้ในการฆ่าเชื้อ (สถาบันวิจัยอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ประเทศเกาหลี, 2021)

สถาบันวิจัยอาชีวอนามัยและความปลอดภัย ประเทศเกาหลี แนะนำการฆ่าเชื้อในสถานที่ต่าง ๆ ด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโซเดียมไฮโปคลอไรต์ ที่ความเข้มข้น 0.1% หรือ 1,000 ppm

ภาพรวมของสารเคมีที่ใช้ในการฆ่าเชื้อโควิด-19 (มหาวิทยาลัยอเมริกันแห่งชาร์จาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, 2020)

มหาวิทยาลัยอเมริกันแห่งชาร์จาห์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ แนะนำน้ำยาฆ่าเชื้อที่สามารถใช้ฆ่าเชื้อเชื้อโควิด-19 ได้ทั้งบนพื้นผิว และในน้ำ คือโซเดียมไฮโปคลอไรต์

การฆ่าเชื้อไวรัสโคโรน่าในห้องปฏิบัติการจุลพยาธิวิทยา (มหาวิทยาลัยอิสลามาบาฮาวัลปูร์ ประเทศปากีสถาน, 2020)

ผลการทดสอบการฆ่าเชื้อจากมหาวิทยาลัยอิสลามาบาฮาวัลปูร์ ประเทศปากีสถาน สำหรับการทดสอบการฆ่าเชื้อในห้องปฏิบัติการด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโซเดียมไฮโปคลอไรต์ที่ความเข้มข้น 0.1% สามารถฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ภายในระยะเวลา 1 นาที

แนวทางการฆ่าเชื้อและการสเตอริไลส์ในสถานพยาบาล (ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ประเทศสหรัฐอเมริกา, 2019)

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค (CDC) ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้กำหนดแนวทางการฆ่าเชื้อโควิด-19 ในสถานพยาบาลด้วยโซเดียมไฮโปคลอไรต์ที่ความเข้มข้น 1,000 ppm และ 5,000 ppm สามารถฆ่าเชื้อได้ภายใน 1 นาที

แนวทางการใช้โซเดียมไฮโปคลอไรต์เป็นสารฆ่าเชื้อสำหรับขยะชีวภาพ (มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น ประเทศแคนาดา, 2015)

มหาวิทยาลัยเวสเทิร์น ประเทศแคนาดา ได้เสนอแนวทางในการใช้โซเดียมไฮโปคลอไรต์เพื่อฆ่าเชื้อในขยะชีวภาพ ที่ความเข้มข้น 0.5% และกรณีขยะชีวภาพที่ปนเปื้อนคราบเลือด ควรใช้โซเดียมไฮโปคลอไรต์ที่ความเข้มข้น 1%

การคงอยู่ของเชื้อไวรัสโคโรนาที่ปนเปื้อนบนพื้นผิวและการยับยั้งด้วยสารฆ่าเชื้อรา (วารสารสมาคมโรคติดเชื้อทางการแพทย์, 2020)

วารสารสมาคมโรคติดเชื้อทางการแพทย์ ได้รวบรวมงานวิจัยที่ศึกษาเกี่ยวกับการฆ่าเชื้อโควิด-19 จำนวน 22 ชิ้น พบว่า โซเดียมไฮโปคลอไรต์ที่ความเข้มข้น 0.1% สามารถฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ภายใน 1 นาที

กรดไฮโปคลอรัส เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อในการดูแลผู้ป่วยในบริบทโควิด-19 (วารสารแอ็ลเซอเฟียร์ ประเทศสเปน, 2021)

วารสารแอ็ลเซอเฟียร์ ประเทศสเปน ทำการทดสอบในการฆ่าเชื้อโควิด-19 พบว่า กรดไฮโปคลอรัสที่มีความเข้มข้น 0.01% สามารถฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นโยบายในการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อสิ่งแวดล้อมในบริบทของโควิด-19 (กระทรวงสาธารณสุขและบริการการแพทย์ ประเทศฟีจี)

นโยบายในการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อสิ่งแวดล้อมในบริบทของโควิด-19 โดย กระทรวงสาธารณสุขและบริการการแพทย์ ประเทศฟีจี แนะนำให้ใช้โซเดียมไฮโปคลอไรต์ที่ความเข้มข้น 0.1% (1,000 ppm)  เป็นประจำ เพื่อฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่สถานกักตัว และการทำ Home Isolation อย่างมีประสิทธิภาพ

การฆ่าเชื้อตามสภาพแวดล้อมในสถานพยาบาลและสถานที่ต่าง ๆ ที่มีการปนเปื้อนเชื้อ SARS-CoV-2 (ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหภาพยุโรป ประเทศอังกฤษ)

รายงานจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหภาพยุโรป ประเทศอังกฤษ ระบุว่า โซเดียมไฮโปคลอไรต์ที่ความเข้มข้น 0.1% สามารถฆ่าเชื้อไวรัสโควิด-19 และทำความสะอาดห้องส้วม อ่างล้างหน้า และสิ่งอำนวยความสะดวกด้านสุขอนามัยต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากเป็นการทำความสะอาดพื้นผิวในสถานพยาบาลควรใช้ที่ความเข้มข้น 0.5% เพื่อป้องกันการระคายเคือง

รายชื่อน้ำยาฆ่าเชื้อในครัวเรือนและผลิตภัณฑ์ที่สามารถฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้เอง (สำนักงานสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ประเทศสิงคโปร์)

สำนักงานสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ประเทศสิงคโปร์ ระบุโซเดียมไฮโปคลอไรต์ในรายชื่อน้ำยาฆ่าเชื้อที่ใช้ในครัวเรือนและผลิตภัณฑ์ที่สามารถฆ่าเชื้อโควิด-19 ได้ โดยความเข้มข้น 0.05-0.5% สามารถฆ่าเชื้อโควิดได้ภายใน 5 นาที

การใช้กรดไฮโปคลอรัสและห้องสุขาภิบาลสำเร็จรูปเพื่อลดความเสี่ยงการแพร่ระบาดโรคโควิด19 (วารสารทางการแพทย์โดฟ)

วารสารทางการแพทย์โดฟ เกี่ยวกับการใช้กรดไฮโปคลอรัสและห้องสุขาภิบาลสำเร็จรูปเพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ระบุว่า กรดไฮโปคลอรัส (HOCl) ที่มีที่ pH 3.5-5.5 เป็นสารฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพสำหรับการใช้ในห้องฆ่าเชื้อ และยังได้รับการอนุมัติจากสมาคมคุ้มครองสิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกาในการฆ่าเชื้อ SARS-CoV-2

แนวทางการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโควิด-19 (โรงเรียนและวิทยาลัยสีเขียวเพื่อสุขภาพ)

โครงการ Design for the Environment (DfE) ของ EPA ได้แนะนำให้ใช้ไฮโปคลอรัส (HOCl)  ซึ่งเป็นสารออกฤทธิ์ที่ไม่อันตรายต่อร่างกาย ในการกำจัดไวรัสโควิด-19 โดยระบุไว้ในแนวทางการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโควิด-19

home keys_edited_edited.jpg

ฆ่าเชื้อบนพื้นผิววัสดุ ห้องครัว / ห้องน้ำ / ของใช้ภายในบ้าน

โควิด-19 - การฆ่าเชื้อด้วยใช้สารประกอบคลอรีน (ศูนย์วิจัยความปลอดภัยด้านวัตถุดิบแห่งมหาวิทยาลัยแห่งรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา)

บทความจากศูนย์วิจัยความปลอดภัยด้านวัตถุดิบแห่งมหาวิทยาลัยแห่งรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา เกี่ยวกับการฆ่าเชื้อโควิด-19 ด้วยใช้สารประกอบคลอรีน ระบุว่า โซเดียมไฮโปคลอไรต์ถูกแนะนำให้ใช้ในการทำความสะอาดฆ่าเชื้อโดยต้องมีการเจือจางก่อนใช้ตามสัดส่วนของความเข้มข้นของน้ำยา และพื้นที่ที่ต้องการทำความสะอาด

ข้อแนะนำในการทำความสะอาดฆ่าเชื้อที่สาธารณะ (องค์การอนามัยแพนอเมริกัน)

เอกสารข้อแนะนำในการทำความสะอาดฆ่าเชื้อที่สาธารณะ องค์การอนามัยแพนอเมริกัน ระบุให้ใช้โซดียมไฮโปคลอไรต์เป็นหนึ่งในน้ำยาฆ่าเชื้อที่แนะนำสำหรับพื้นผิวต่าง ๆ ในบ้านและที่สาธารณะ อย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง

การเปลี่ยนวิธีในการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในช่วงโควิด-19 (สาธารณสุขเขตคิงเคาน์ตี้ สหรัฐอเมริกา)

สาธารณสุขเขตคิงเคาน์ตี้ สหรัฐอเมริกา แนะนำให้ใช้โซเดียมไฮโปคลอไรต์ ในการฆ่าเชื้อโควิด-19 บนพื้นผิวต่าง ๆ เช่น อุปกรณ์ที่สัมผัสกับอาหาร ห้องครัว และห้องเรียน ด้วยความเข้มข้นที่เหมาะสม

การเปรียบเทียบประสิทธิภาพน้ำยาฆ่าเชื้อที่สถานพักคนชราในประเทศอังกฤษ (วารสารการติดเชื้อในโรงพยาบาล ประเทศอังกฤษ)

งานวิจัยเปรียบเทียบประสิทธิภาพน้ำยาฆ่าเชื้อที่สถานพักคนชราที่ใช้ในปัจจุบันกับไฮโปคลอรัส ตีพิมพ์ในวารสารการติดเชื้อในโรงพยาบาล ประเทศอังกฤษ พบว่าไฮโปคลอรัสสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าแอมโมเนียมที่ใช้อยู่ จึงแนะนำให้ใช้ไฮโปคลอรัสเป็นน้ำยาฆ่าเชื้อตามพื้นผิวต่าง ๆ ในบ้านพักคนชรา

ฆ่าเชื้อทำความสะอาดของใช้ และของเล่นสำหรับเด็ก

สารประกอบคลอรีนที่ความเข้มข้น 5.25 - 6.00% (ที่ปรึกษาด้านสุขภาพในการดูแลเด็ก รัฐไอดาโฮ ประเทศสหรัฐอเมริกา) 

ที่ปรึกษาด้านสุขภาพในการดูแลเด็ก รัฐไอดาโฮ ประเทศสหรัฐอเมริกา ได้แนะนำความเข้มข้นของโซเดียมไฮโปคลอไรต์ในการฆ่าเชื้ออุปกรณ์และพื้นผิวต่าง ๆ สำหรับเด็ก โดยอุปกรณ์ที่ต้องสัมผัสกับปากของเด็กจะอยู่ที่ 100 ppm ส่วนพื้นผิวอื่น ๆ ใช้ที่ความเข้มข้น 600 ppm

การทำความสะอาดฆ่าเชื้อของเล่นสำหรับเด็ก (สาธารณสุขแห่งออตตาวา ประเทศแคนาดา)

หน่วยงานด้านสาธารณสุขแห่งออตตาวา ประเทศแคนาดา ระบุว่าในช่วงการระบาดของโควิด-19 แนะนำให้ใช้โซเดียมไฮโปคลอไรต์เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อของเล่นพลาสติกสำหรับเด็ก โดยการเจือจางให้อยู่ในระดับความเข้มข้นที่เหมาะสม

สารประกอบคลอรีนสำหรับการฆ่าเชื้อ(สุขภาพเด็กและครอบครัว เมืองโตรอนโต)

หน่วยงานกลางแห่งโตรอนโต ระบุให้โซเดียมไฮโปคลอไรต์เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อที่สามารถฆ่าเชื้อที่ของเล่นสำหรับเด็กได้ โดยเจือจางให้อยู่ในระดับความเข้มข้นที่เหมาะสม

นโยบายการดำเนินการดูแลเด็กภายใต้การควบคุมของโรคระบาดโควิด-19 (รัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ ประเทศแคนาดา)

หน่วยงานกลางแห่งรัฐนิวฟันด์แลนด์และแลบราดอร์ ระบุในนโยบายการดูแลเด็กในสถานการณ์โควิด-19 ว่าสามารถใช้โซเดียมไฮโปคลอไรต์ในการฆ่าเชื้อทำความสะอาดของใช้ และของเล่นสำหรับเด็ก  โดยเจือจางให้อยู่ในระดับความเข้มข้นที่เหมาะสม 

มาตรฐานในการฆ่าเชื้อ (เว็บไซต์ HOCl Review)

เว็บไซต์ HOCl Review ระบุว่า ไฮโปคลอรัสไม่เป็นอันตรายต่อมนุษย์ เมื่อใช้ฆ่าเชื้อบนพื้นผิวและอุปกรณ์ต่าง ๆ ในศูนย์ดูแลเด็ก เมื่อเด็กเผลอเอาของเล่นเข้าปากจึงไม่ต้องกังวลว่าจะได้รับสารเคมีที่เป็นอันตราย

เคล็ดลับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโควิด-19 ที่ของเล่นสำหรับเด็ก 
(ศูนย์การแพทย์ตะวันตกเฉียงใต้ มหาวิทยาลัยแห่งรัฐเท็กซัส ประเทศสหรัฐอเมริกา)

บทความเคล็ดลับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อโควิด-19 ที่ของเล่นสำหรับเด็ก มหาวิทยาลัยแห่งรัฐเท็กซัส แนะนำให้แช่ของเล่นสำหรับเด็กในโซเดียมไฮโปคลอไรต์ที่ความเข้มข้นที่เหมาะสม เป็นเวลา 5 นาทีแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด

ฆ่าเชื้อสำหรับการทำความสะอาดเสื้อผ้า

แนวทางการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อที่สถานที่กักตัวในสถาณการณ์โควิด-19(ศูนย์ควบคุมโรคแห่งชาติ ประเทศอินเดีย)

แนวทางการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อที่สถานที่กักตัวในสถานการณ์โควิด-19 โดยศูนย์ควบคุมโรคแห่งชาติ ประเทศอินเดีย ระบุว่าโซเดียมไฮโปคลอไรต์ถูกแนะนำให้เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อ COVID-19 สำหรับหลากหลายพื้นผิว รวมถึงเสื้อผ้า และเครื่องนอน

เชื้อไวรัสกับสารประกอบคลอรีนที่ใช้ในครัวเรือนและวิธีการใช้โซเดียมไฮโปคลอไรต์อย่างถูกวิธีิ (องค์กรสังคมอเมริกันสำหรับจุลชีววิทยา ประเทศสหรัฐอเมริกา)

งานวิจัยจากองค์กรสังคมอเมริกันสำหรับจุลชีววิทยา ประเทศสหรัฐอเมริกา ระบุว่าการใช้โซเดียมไฮโปคลอไรต์สามารถลดจำนวนไวรัสที่ติดอยู่บนตัวอย่างผ้าคอตตอนได้อย่างน้อย 99.99% หลังจากขั้นตอนการทำความสะอาดและทำให้แห้ง เปรียบเทียบกับการใช้น้ำยาซักผ้าอย่างเดียวไม่สามารถทำได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งยังมีโอกาสแพร่เชื้อไปยังเสื้อผ้าที่ไม่ติดเชื้อได้ด้วย

ประสิทธิภาพของน้ำอโนไลต์ที่เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม สำหรับผ้าฝ้ายและผ้าฝ้ายผสมโพลีเอสเตอร์ที่ปนเปื้อนเชื้อแบคทีเรีย Escherichia coli และ Staphylococcus aureus (วารสารผู้บริโภคศาสตร์)

วารสารผู้บริโภคศาสตร์ ระบุว่า น้ำอโนไลต์ (ไฮโปคลอรัส) เป็นทางเลือกในการฆ่าเชื้อโดยไม่ส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม โดยทดสอบกับผ้าฝ้ายและผ้าฝ้ายผสมโพลีเอสเตอร์แล้ว พบว่าไม่พบเชื้อแบคทีเรียหลังการใช้ไฮโปคลอรัสฆ่าเชื้อแล้ว พิสูจน์ได้ว่าไฮโปคลอรัสเป็นน้ำยาฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพสูงสุดเทียบกับน้ำยาฆ่าเชื้อชนิดอื่น

woman-with-gauze-bandage-wrapped-around-her-hand_edited.jpg

ฆ่าเชื้อทำความสะอาดแผล / ลดการอักเสบ / ป้องกันการติดเชื้อ

น้ำยาฆ่าเชื้อโซเดียมไฮโปคลอไรต์สำหรับการรักษาแผลที่ติดเชื้อ (วิทยาลัยแพทยศาสตร์แกรนท์ และ เครือโรงพยาบาล JJ ประเทศอินเดีย)

งานวิจัยเกี่ยวกับแผลติดเชื้อในโรงพยาบาลพบว่าการใช้โซเดียมไฮโปคลอไรต์ทำให้เกิดการสมานแผลอย่างมีนัยสำคัญ  เป็นทางเลือกที่มีประสิทธิภาพและราคาถูก

ข้อดีและวิธีการใช้น้ำอิเล็กโทรไลต์โซเดียมไฮโปคลอไรต์ที่ความเข้นข้น 0.05% สำหรับการฆ่าเชื้อบนผิวหนัง (มหาวิทยาลัยโปลีเทคนิคมาร์เช่ ประเทศอิตาลี)

โซเดียมไฮโปคลอไรต์ได้รับการพิสูจน์ว่ามีประสิทธิภาพและปลอดภัยมากในการจัดการแผลที่ผิวหนังที่ติดเชื้อ

น้ำยาฆ่าเชื้อโซเดียมไฮโปคลอไรต์ (มหาวิทยาลัยแพทย์แห่งรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา)

โซเดียมไฮโปคลอไรต์สำหรับใช้เฉพาะที่ ถูกใช้ในการรักษาหรือป้องกันการติดเชื้อที่เกิดจากบาดแผลหรือรอยถลอก แผลที่ผิวหนัง แผลกดทับ แผลที่เท้าจากเบาหวาน หรือการผ่าตัดได้ โดยการราดบนบาดแผล หรือนำผ้าก๊อซชุบโซเดียมไฮโปคลอไรต์แล้ววางไว้บนบาดแผล ตามเวลาที่ระบุไว้ที่ฉลากของผลิตภัณฑ์

การรักษาบาดแผลลักษณะต่าง ๆ ของผู้ป่วยโดยการใช้กรดไฮโปคลอรัส (สถาบันด้านบาดแผลนานาชาติ ประเทศอังกฤษ)

การทดลองใช้ไฮโปคลอรัสในการรักษาแผลติดเชื้อในผู้ป่วยด้วยวิธีการแช่และทำความสะอาดเป็นประจำทุกวัน พบว่าเห็นผลภายใน 1 สัปดาห์

การทำความสะอาดบาดแผลที่ใช้ไฮโปคลอรัสบริสุทธิ์ (ศูนย์วิทยาศาสตร์สุขภาพ มหาวิทยาลัยแห่งรัฐเท็กซัส  ประเทศสหรัฐอเมริกา)

การมีอยู่ตามธรรมชาติของไฮโปคลอรัสในเซลล์ของร่างกายเป็นหนึ่งในเหตุผลหลักที่ทำให้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดบาดแผลที่ใช้ไฮโปคลอรัสบริสุทธิ์ ที่มีระดับกรดที่เหมาะสม ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าสามารถนำมาใช้ฆ่าเชื้อและรักษาบาดแผลได้อย่างเป็นธรรมชาติ และไม่เป็นพิษ

คำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญสำหรับการใช้ไฮโปคลอรัส (วิทยาศาสตร์และการประยุกต์ใช้ทางคลินิก วารสารการจัดการดูแลแผลและทวารเทียม)

จากการศึกษาในหลอดทดลอง ฤทธิของไฮโปคลอรัสเทียบได้กับน้ำยาฆ่าเชื้ออื่น ๆ แต่ไม่มีความเป็นพิษต่อเซลล์ และพบหลักฐานที่ชัดเจนว่าสามารถใช้รักษาบาดแผลที่ติดเชื้อ แผลเบาหวาน

กรดไฮโปคลอรัส: ประสิทธิภาพในการรักษาและดูแลบาดแผลโดยการยับยั้งและฆ่าเชื้อจุลินทรีย์ต่าง ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ (บริษัท HMP Communications)

ผลงานวิจัยพบว่าการล้างแผลโดยใช้กรดไฮโปคลอรัสจะสามารถฆ่าเชื้อ และจุลินทรีย์ประเภทต่าง ๆ บนแผลอย่างมีประสิทธิภาพ

บทวิจารณ์เกี่ยวกับไฮโปคลอรัส (วารสารศัลยกรรมช่องปาก และการผ่าตัดศัลยกรรมขากรรไกรและใบหน้า)

การศึกษาทางคลินิกที่เกี่ยวกับช่องท้อง พบว่าการล้างช่องท้องด้วยไฮโปคลอรัสที่ความเข้มข้น 100 ppm และล้างบาดแผลที่ความเข้มข้น 200 ppm ไม่พบผลข้างเคียง แสดงว่าไฮโปคลอรัสเป็นน้ำยาฆ่าเชื้อที่มีความปลอดภัย

การปรับการรักษาบาดแผลของผิวหนังที่ติดเชื้อ Staphylococcus Epidermidis และรักษาด้วยสารละลายโซเดียมไฮโปคลอไรต์ที่ความเข้มข้น 4% 
(วารสารเภสัชชีววิทยาและวิทยาศาสตร์สุขภาพโลก)

วารสารเภสัชชีววิทยาและวิทยาศาสตร์สุขภาพโลก ระบุว่า การใช้โซเดียมไฮโปคลอไรต์ที่ 4% รักษาบาดแผล ทำให้แผลหายเร็วขึ้น และอาจเป็นวิธีการใหม่สำหรับการรักษาแผลติดเชื้อ

การป้องกันและรักษาแผลติดเชื้อ (เว็บไซต์ข่าวออนไลน์ทางการแพทย์ New Zealand Doctor Rata Aotearoa ประเทศนิวซีแลนด์)

เว็บไซต์ข่าวออนไลน์ทางการแพทย์ New Zealand Doctor Rata Aotearoa ได้ให้คำแนะนำเกี่ยวกับความเข้มข้นของใช้โซเดียมไฮโปคลอไรต์สำหรับใช้เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อที่บาดแผลหรือผิวหนัง โดยผสมโซเดียมไฮโปคลอไรต์ 2.15% ปริมาณ 1 มล. กับน้ำ 500 มล. 

ฆ่าเชื้ออุปกรณ์ในการทำอาหาร / วัตถุดิบอาหาร (ผัก และ ผลไม้)

แนวทางการฆ่าเชื้อในกระบวนการแปรรูปอาหารโดยการใช้สารประกอบคลอรีน (มหาวิทยาลัยแห่งรัฐโอคลาโฮมา ประเทศสหรัฐอเมริกา)

โซเดียมไฮโปคลอไรต์ที่เจือจางอย่างเหมาะสม ถือเป็นวิธีที่ใช้โดยทั่วไป คุ้มค่า และมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อในกระบวนการแปรรูปอาหารประเภทผักและผลไม้

กลไกการออกฤทธิ์ของโซเดียมไฮโปคลอไรต์ในการทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อ (ศูนย์เทคโนโลยีอุตสาหกรรมโอคายาม่า ประเทศญี่ปุ่น)

โซเดียมไฮโปคลอไรต์ เป็นสารฆ่าเชื้อที่ใช้กันอย่างแพร่หลายมากที่สุดในอุตสาหกรรมอาหาร ครอบคลุมการฆ่าเชื้อหลากหลายชนิด ไม่เป็นพิษต่อมนุษย์หากใช้ในความเข้มข้นที่เหมาะสม

วิธีการใช้และวิธีการจัดการสารประกอบคลอรีน (ที่ปรึกษา ICF สำหรับโครงการเกษตรออร์แกนิคแห่งชาติของ USDA)

โซเดียมไฮโปคลอไรต์ได้รับอนุมัติจาก FDA ให้เป็นวัตถุเจือปนในอาหารทางอ้อม เป็นที่ยอมรับกันโดยทั่วไปว่าปลอดภัย สามารถใช้เป็นน้ำยาฆ่าเชื้อขั้นสุดท้ายบนอุปกรณ์แปรรูปอาหาร และการล้างผัก-ผลไม้

สารประกอบคลอรีนที่ใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร (รัฐแมนิโทบา ประเทศแคนาดา)

สารประกอบคลอรีนใช้กันอย่างแพร่หลายในอุตสาหกรรมอาหารเพื่อฆ่าเชื้อแบคทีเรียและฆ่าเชื้อในสภาพแวดล้อมการแปรรูปอาหาร เช่น การบำบัดน้ำหล่อเย็นด้วยพาสเจอร์ไรส์ การล้างผักและผลไม้ และการฆ่าเชื้อพื้นผิวที่สัมผัสกับอาหาร

องค์ประกอบพื้นฐานในการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในกระบวนการจัดการและแปรรูปอาหาร (วารสารวิทยาศาสตร์อาหารและโภชนาการมนุษย์ มหาวิทยาลัยแห่งรัฐฟลอริดา ประเทศสหรัฐอเมริกา)

น้ำยาฆ่าเชื้อที่เป็นสารประกอบคลอรีนในรูปแบบของไฮโปคลอรัสจะออกฤทธิ์ได้มากที่สุด โดยสามารถใช้ที่ความเข้มข้นสูงสุด 200 ppm โดยไม่ต้องล้างน้ำซ้ำ

การทำความสะอาดและฆ่าเชื้ออย่างปลอดภัย (มหาวิทยาลัยแห่งรัฐมิชิแกน ประเทศสหรัฐอเมริกา)

แนะนำให้ใช้โซเดียมไฮโปคลอไรต์ในฆ่าเชื้อสำหรับพื้นผิวที่สัมผัสกับอาหาร เนื่องจากสารเคมีอยู่ในความเข้มข้นที่ถือว่าปลอดภัย โดยความเข้มข้นที่ปลอดภัยอยู่ที่ 50-100 ppm

การทำความสะอาดและฆ่าเชื้อสำหรับวัตถุดิบอาหารและพื้นผิวของภาชนะที่สัมผัสกับอาหาร (มหาวิทยาลัยแห่งรัฐแมริแลนด์ ประเทศสหรัฐอเมริกา)

บทความเกี่ยวกับการทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อที่วัตถุดิบอาหาร อ้างถึง อย. ของสหรัฐอเมริกา อนุญาตให้ใช้โซเดียม ไฮโปคลอไรต์เป็นสารฆ่าเชื้อสำหรับอาหารและอุปกรณ์ที่พื้นผิวที่สัมผัสอาหารด้วยความเข้มข้นสูงสุด 200 ppm โดยไม่ต้องล้างออก

บทวิจารณ์เกี่ยวกับการใช้น้ำออกซิไดส์ด้วยไฟฟ้าเป็นสารฆ่าเชื้อเพื่อยืดอายุการเก็บของผลิตภัณฑ์อาหารทะเล (วารสารวิทยาศาสตร์อาหารและเทคโนโลยี ประเทศออสเตรเลีย)

บทวิจารณ์เกี่ยวกับการใช้น้ำออกซิไดส์ด้วยไฟฟ้าเป็นสารฆ่าเชื้อเพื่อยืดอายุการเก็บของผลิตภัณฑ์อาหารทะเล จากวารสารวิทยาศาสตร์อาหารและเทคโนโลยี ระบุว่า การผลิตน้ำออกซิไดส์ (ไฮโปคลอรัส) จะมีศักยภาพในการฆ่าเชื้อโรค ช่วยลดการปนเปื้อนของจุลินทรีย์ในอาหารแปรรูปได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การทำความสะอาดฆ่าเชื้อบนพื้นผิวที่สัมผัสกับอาหารด้วยสารประกอบคลอรีนในร้านอาหารและสถาบันต่าง ๆ (สภาพัฒนาคุณภาพน้ำและสุขภาพ ประเทศสหรัฐอเมริกา)

คำแนะนำสำหรับการฆ่าเชื้อที่พื้นผิวที่สัมผัสกับอาหาร เช่น เครื่องใช้ภายในครัว จาน ช้อน-ส้อม ด้วยโซเดียมไฮโปคลอไรต์ที่ 200 ppm คือ หลังจากขั้นตอนการล้างอุปกรณ์เหล่านี้ ให้ใช้โซเดียมไฮโปคลอไรต์ฆ่าเชื้อเป็นขั้นตอนสุดท้ายก่อนทำให้แห้ง จะทำให้การฆ่าเชื้อมีประสิทธิภาพ

ฆ่าเชื้อทำความสะอาดผิวสัตว์เลี้ยง / ที่อยู่อาศัยของสัตว์เลี้ยง

คำแนะนำในการฆ่าเชื้อสำหรับธุรกิจสัตว์เลี้ยง (ศูนย์ความมั่นคงทางอาหารและสาธารณสุข มหาวิทยาลัยแห่งรัฐไอโอวา ประเทศสหรัฐอเมริกา)

น้ำยาฆ่าเชื้อ โซเดียมไฮโปคลอไรต์เป็นหนึ่งในน้ำยาฆ่าเชื้อที่แนะนำให้ใช้สำหรับธุรกิจที่เกี่ยวกับสัตว์เลี้ยง โดยสามารถใช้ฆ่าเชื้อได้หลากหลายพื้นผิว เช่น ภาชนะใส่อาหารของสัตว์เลี้ยง ของเล่น อุปกรณ์ตัดแต่งขนสัตว์ คอกและกรงของสัตว์เลี้ยง ห้อง และอุปกรณ์ตกแต่งห้องของสัตว์เลี้ยง ด้วยความเข้มข้นที่เหมาะสม

การใช้กรดไฮโปคลอรัสเป็นน้ำยาฆ่าเชื้อในแล็บทดลองสัตว์ (มหาวิทยาลัยโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น)

น้ำยาฆ่าเชื้อไฮโปคลอรัสสามารถฆ่าเชื้อที่สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ในแล็บทดลองสัตว์ได้ 

การทดลองฉีดพ่นกรดไฮโปคลอรัสที่มีความเข้นข้นต่ำบนพื้นผิวต่าง ๆ เพื่อยับยั้งเชื้อแบคทีเรีย (มหาวิทยาลัยเกษตรและเทคโนโลยีโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น)

ไฮโปคลอรัสเป็นตัวเลือกที่ดีในการฆ่าเชื้อเพื่อความปลอดภัยทางชีวภาพของสัตว์ปีก โดยสามารถนำมาฉีดพ่นบนพื้นผิวของเปลือกไข่ ตู้ฟักไข่ กรงขนส่ง ลดโอการในการปนเปื้อนและการแพร่กระจายของไวรัสได้

การเพิ่มประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโดยใช้น้ำอิเล็กโทรไลต์ในการฉีดพ่นฆ่าเชื้อที่กรงของสัตว์เลี้ยง (วารสารนานาชาติวิศวกรรมเกษตรและชีวภาพ ประเทศจีน)

บทความจากวารสารนานาชาติวิศวกรรมเกษตรและชีวภาพ เกี่ยวกับการเพิ่มประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโดยใช้ไฮโปคลอรัสในการฉีดพ่นฆ่าเชื้อที่กรงของสัตว์เลี้ยง แนะนำให้ใช้ไฮโปคลอรัสในการฉีดพ่นฆ่าเชื้อที่กรงของสัตว์เลี้ยงด้วยสเปรย์ที่มีละอองขนาดกลาง 60-90 ไมครอน

ผลการทดสอบไฮโปคลอรัสกับไวรัสและแบคทีเรียในหนูทดลอง (ศูนย์ข้อมูลเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ หอสมุดแพทยศาสตร์แห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา)

งานวิจัยจากศูนย์ข้อมูลเทคโนโลยีชีวภาพแห่งชาติ ประเทศสหรัฐอเมริกา แนะนำให้ใช้ไฮโปคลอรัสเป็นประจำในการทำความสะอาดสิ่งของต่าง ๆ ที่ใช้สำหรับสัตว์อย่างเหมาะสม

คำแนะนำทั่วไปสำหรับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อไวรัสโรคริดสีดวงทวารในกระต่าย (RHDV)(กระทรวงเกษตร ประเทศสหรัฐอเมริกา)

คำแนะนำทั่วไปสำหรับการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อไวรัสโรคริดสีดวงทวารในกระต่าย พบว่าเชื้อไวรัสตายด้วยการใช้โซเดียมไฮโปคลอไรต์ที่ความเข้มข้น 230 ppm

ทำความสะอาดแปรงสีฟัน / ฟันปลอม

กรดไฮโปคลอรัสสามารถฆ่าเชื้ออย่างมีประสิทธิภาพแทนแอลกอฮอล์ได้หรือไม่ (วารสารทันตแพทยศาสตร์ ประเทศญี่ปุ่น)

วารสารทันตแพทย์ศาสตร์ ประเทศญี่ปุ่น ระบุว่ากรดไฮโปคลอรัสที่มีความเข้มข้นอย่างน้อย 200 ppm สามารถใช้งานทางการแพทย์และทันตกรรมได้จริง และมีความปลอดภัยมากกว่าแอลกอฮอล์

การออกฤทธิ์กรดไฮโปคลอรัส (HOCl) ที่บริสุทธิ์ (คลินิกทันตกรรมอามาโนะ ประเทศญี่ปุ่น)

คลินิกทันตกรรมอามาโนะ ประเทศญี่ปุ่น ได้แนะนำให้ใช้ไฮโปคลอรัสในการแช่ฟันปลอม และกลั้วปาก เพื่อฆ่าเชื้อโรคที่ก่อให้เกิดฟันผุและโรคปริทันต์

การฆ่าเชื้อที่มีอยู่ในท่อน้ำงานทันตกรรมโดยใช้กรดไฮโปคลอรัสของทันตแพทย์ (วารสารทันตกรรมอนุรักษ์ ประเทศอินเดีย) 

วารสารทันตกรรมอนุรักษ์ ประเทศอินเดีย ระบุว่า ไฮโปคลอรัสมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อทำความสะอาดไบโอฟีล์มและเมือกที่เกาะอยู่ในท่อน้ำจากงานทันตกรรม

การสำรวจการใช้ การเก็บรักษา และการขนส่งโซเดียมไฮโปคลอไรต์ (วิทยาลัยทันตแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยคิงซาอุด ประเทศซาอุดิอารเบีย)

การสำรวจการใช้ การเก็บรักษา และการขนส่งโซเดียมไฮโปคลอไรต์ ในวิทยาลัยทันตแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยคิงซาอุด ระบุว่าโซเดียมไฮโปคลอไรต์ที่ความเข้มข้น 2.5%-5% เป็นที่นิยมมากที่สุดสำหรับใช้ในงานทันตกรรม

การสำรวจการใช้โซเดียมไฮโปคลอไรต์โดยทันตแพทย์ทั่วไปและทันตแพทย์จัดฟันในออสเตรเลีย (วารสารทันตกรรมออสเตรเลีย ประเทศออสเตรเลีย)

การสำรวจการใช้โซเดียมไฮโปคลอไรต์โดยทันตแพทย์ทั่วไปและทันตแพทย์จัดฟันในออสเตรเลีย พบว่าทันตแพทย์ใช้โซเดียมไฮโปคลอไรต์ในการรักษารากฟันเป็นปกติ

การใช้โซเดียมไฮโปคลอไรต์ ข้อบ่งชี้ และความซับซ้อนในงานทันตกรรมรักษารากฟัน (เคล็ดลับคลินิกทันตกรรม ประเทศอินดีย)

บทความเคล็ดลับคลินิกทันตกรรม ประเทศอินดีย ระบุว่า โซเดียมไฮโปคลอไรต์เป็นที่รู้จักกันมายาวนานในการฆ่าเชื้อก่อโรคหลายชนิดที่ครองรากฟัน

บทวิจารณ์การใช้โซเดียมไฮโปคลอไรต์ในการรักษารากฟัน การจัดการภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น (วารสารทันตกรรม ประเทศอังกฤษ)

วารสารทันตกรรม ประเทศอังกฤษ ระบุว่า โซเดียมไฮโปคลอไรต์ยังคงเป็นน้ำยาฆ่าเชื้อที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายสำหรับการรักษารากฟันเนื่องจากคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อและละลายเนื้อเยื่อซึ่งจำเป็นสำหรับฟันที่ไม่ผ่านการเติมรากฟันมาก่อน

ecologist-expert-taking-water-samples-examine-pollution-contamination-waste-water-coming-o

ฆ่าเชื้อในน้ำเสีย

การใช้โซเดียมไฮโปคลอไรต์ฆ่าเชื้อก่อโรคโควิด-19 ในน้ำและน้ำเสียในชุมชน (มหาวิทยาลัยแห่งน็อทร์-ดาม ประเทศสหรัฐอเมริกา, 2022)

งานวิจัยจากมหาวิทยาลัยแห่งน็อทร์-ดาม ประเทศสหรัฐอเมริกา พบว่า   โซเดียมไฮโปคลอไรต์สามารถฆ่าเชื้อก่อโรคโควิด-19 ในน้ำและน้ำเสียในชุมชนได้ 

การทบทวนการตรวจหา RNA ของเชื้อ SARS-CoV-2 ในน้ำเสียเพื่อหากระบวนการกำจัดเศษของเชื้อไวรัสที่อยู่ในน้ำเสีย (สาขาวิชาอนามัยสิ่งแวดล้อม คณะสาธารณสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา ประเทศไทย 2021) 

วิธีการบำบัดน้ำเสียอย่างมีประสิทธิภาพและความปลอดภัยขึ้นอยู่กับชนิดและบริมาณของน้ำยาฆ่าเชื้อ รวมถึงระยะเวลาที่สัมผัสพื้นผิวที่ต้องการฆ่าเชื้อ สารละลายโซเดียมไฮโปคลอไรต์มักถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลายในการฆ่าเชื้อในน้ำเสียด้วยความเข้มเข้น 5.25% -6.15% 

การประเมินประสิทธิผลของโซเดียมไฮโปคลอไรต์ในการบำบัดน้ำเสียเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ สำหรับกระบวนการในส่วนที่เปียกของการผลิตสิ่งทอ (วารสารวิจัยนานาชาติด้านวิศวกรรมโยธา สถาปัตยกรรม และการออกแบบ ประเทศอินเดีย, 2013)

น้ำรีไซเคิลที่ผ่านระบบบำบัดน้ำเสียจากโรงงานนำร่อง ถูกฆ่าเชื้อโดยใช้สารละลายโซเดียมไฮโปคลอไรต์ ที่อัตราส่วน 22 กรัม/น้ำ 1 ลิตร

การฆ่าเชื้อในน้ำเสียด้วยโซเดียมไฮโปคลอไรต์: สามารถใช้ในการบำบัดน้ำเสียให้กับโรงงาน Slottshagen ได้อย่างไร (มหาวิทยาลัยลินเชอปิง สาขาฟิสิกส์ เคมี และชีวะ ประเทศสวีเดน, 2021) 

กระบวนการฆ่าเชื้อนั้นขึ้นอยู่กับค่าความเป็นกรด-ด่าง ของน้ำยาฆ่าเชื้อ เนื่องจากน้ำยาฆ่าเชื้อไฮโปคลอรัสซึ่งมีคุณสมบัติความเป็นกรดอ่อน มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อมากกว่าไฮโปคลอไรต์ โดยไฮโปคลอรัสมักมีค่าความเป็นกรด-ด่างอยู่ในช่วง 3-6

portrait-veterinarian-white-protective-suit-with-hairnet-mask-standing-pig-pen-showing-thu

ฆ่าเชื้อในปศุสัตว์ กับสิ่งแวดล้อม

แนวทางการปฏิบัติสำหรับโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (องค์การโรคระบาดสัตว์ระหว่างประเทศ (OIE), 2021)

แนะนำให้โซเดียมไฮโปคลอไรต์เป็นหนึ่งในน้ำยาฆ่าเชื้อและทำความสะอาดในการจัดการโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASFV)

โรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร และ การทำความสะอาดฆ่าเชื้อบนยานพาหนะต่าง ๆ (กรมอุตสาหกรรมพื้นฐาน รัฐนิวเซาท์เวลส์ ประเทศออสเตรเลีย, 2021)

โซเดียมไฮโปคลอไรต์ เป็นหนึ่งในรายชื่อน้ำยาฆ่าเชื้อที่หน่วยงานด้านยาฆ่าแมลงและสัตวแพทยศาสตร์ ให้ใช้ฆ่าเชื้ออหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASFV) ที่อุปกรณ์และพื้นผิวของยานพาหนะ

ประเภทสารเคมีในท้องตลาดที่สามารถฆ่าเชื้อโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรอย่างมีประสิทธิภาพ (งานวิจัยจาก สถาบันวิจัยด้านสัตวแพทย์ศาสตร์แห่งชาติ ประเทศโปแลนด์, 2020)

ผลงานวิจัยได้ยืนยันประสิทธิภาพของโซเดียมไฮโปคลอไรต์ว่า ที่ความเข้มข้น 0.05%สามารถฆ่าเชื้ออหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASFV) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

การฆ่าเชื้อโรคปากและเท้าเปื่อยและโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรที่ปนเปื้อนบนไม้ที่ใช้ในอุตสาหกรรมการเกษตรด้วยใช้กรดซิตริกและโซเดียมไฮโปคลอไรท์ (งานวิจัยจาก กรมวิชาการเกษตร ร่วมกับสถาบันวิทยาศาสตร์และการศึกษาโอ๊คริดจ์ ประเทศสหรัฐอเมริกา, 2011)

โซเดียมไฮโปคลอไรต์ ที่ความเข้มข้น 2,000 ppm สามารถฆ่าเชื้ออหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASFV) ที่ปนเปื้อนบนไม้ที่ใช้ในอุตสาหกรรมการเกษตรอย่างมีประสิทธิภาพ

ลักษณะของสารออกฤทธิ์ที่เลือกใช้ในฆ่าเชื้อโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ( ASFV) (งานวิจัยจาก กรมโรคสุกร สถาบันวิจัยสัตวแพทย์แห่งชาติ ประเทศโปแลนด์, 2019) 

โซเดียมไฮโปคลอไรต์เป็นหนึ่งในสารประกอบทางเคมีที่ถูกแนะนำให้ใช้ในการฆ่าเชื้ออหิวาต์แอฟริกาในสุกร (ASFV) โดยใช้ความเข้มข้นเพียงแค่เล็กน้อย (0.03% ถึง 0.0075%)

การทำความสะอาดและฆ่าเชื้อในการเลี้ยงสุกรตามหมู่บ้าน (งานวิจัยจาก คณะสัตวแพทย์ศาสตร มหาวิทยาลัย Ljubljana ประเทศสโลวีเนีย, 2022)

แนะนำโซเดียมไฮโปคลอไรต์เป็นหนึ่งในน้ำยาฆ่าเชื้อที่มีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อโรคอหิวาต์ในสุกร (ASFV) ที่ความเข้มข้น (0.03-0.5%) โดยใช้เวลา 30 นาที

การฆ่าเชื้อไวรัสก่อโรคในสัตว์ตามพื้นผิวต่าง ๆ ที่อยู่ในอุตสาหกรรมการบรรจุเนื้อหมู (หน่วยงานการบริการวิจัยการเกษตร กระทรวงเกษตรสหรัฐอเมริกา, 2015)

โซเดียมไฮโปคลอไรต์ที่ความเข้มข้น 600 ppm มีประสิทธิภาพสูงในการต้านไวรัสโรคอหิวาต์สุกรแอฟริกัน (ASFV) และเชื้อไวรัสอหิวาต์สุกร (CSFV) บนพื้นผิวเหล็กและพลาสติกในโรงงานบรรจุเนื้อหมู แต่หากเป็นการฆ่าเชื้อโรคปากและเท้าเปื่อย (FMDV) แนะนำให้ใช้โซเดียมไฮโปคลอไรต์ที่ความเข้มข้น 1,000 ppm 

แนวทางการทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เพื่อเป็นมาตรการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อโควิด-19 (กรมอนามัย ประเทศฟิลิปปินส์)

กรมอนามัย ประเทศฟิลิปปินส์ แนะนำให้ใช้น้ำยาโซเดียมไฮโปคลอไรต์ เป็นหนึ่งในแนวทางการทำความสะอาดและการฆ่าเชื้อในสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เพื่อเป็นมาตรการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อโควิด-19 ให้กับสำนักงานภาครัฐและเอกชน บ้าน และบุคคล

Picture1.png

ฆ่าเชื้อไข้หวัดนก

ประสิทธิภาพของกรดน้ำอิเล็กโทรไลต์ (AEW) ที่สามารถฆ่าเชื้อไวรัสโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร และไข้หวัดนก (แผนกรักษาสัตว์และยาชีวภาพ ด่านกักกันสัตว์และพืช ประเทศเกาหลี, 2021)

จากข้อมูลที่มี แนะนำให้ใช้กรดไฮโปคลอรัสฆ่าเชื้ออหิวาต์ในสุกร (ASFV) เป็นประจำ ที่ความเข้มข้น 50-100 ppm และ ฆ่าเชื้อไข้หวัดนก ที่ความเข้มข้น 75-125 ppm

ประสิทธิภาพของน้ำยาฆ่าเชื้อที่มีต่อไวรัสไข้หวัดนก H5N1 ในอียิปต์ (คณะสัตวแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยไคโร ประเทศ อียิปต์, 2015)

ผลการศึกษานี้ได้ระบุถึงประสิทธิภาพของน้ำยาฆ่าเชื้อเชิงพาณิชย์ที่ใช้บ่อยที่สุด ซึ่งมีประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อไวรัสไข้หวัดนก คือการใช้โซเดียมไฮโปคลอไรต์ที่ความเข้มข้น 5%

การประเมินประสิทธิภาพในการฆ่าเชื้อไวรัสไข้หวัดนก ด้วยการฉีดพ่นฆ่าเชื้อในหลอดทดลอง (วารสารสัตวแพทยศาสตร์, 2014)

สามารถใช้กรดไฮโปคลอรัสในรูปแบบสเปรย์เพื่อฆ่าเชื้อไข้หวัดนกได้อย่างประสิทธิภาพภายในระยะเวลา 10 นาที ที่ความเข้นข้น 200 ppm 

bottom of page